Archive for August 2012
การศึกษาชีววิทยา
By : Unknown
ปัญหา(problem) มักเกิดจากการสงสัยที่ได้จากการสังเกตปรากฎการณ์และการศึกษาข้อเท็จจริงต่างๆที่เกิดขึ้น
สมมติฐาน(hypothesis) คือการตั้งคำถามจากสิ่งที่สังเกต และพยายามคิดหาคำตอบที่อาจเป็นไปได้
แอลเบิร์ต ไอน์สไตน์ (Albert Einstein) นักวิทยาศาสตร์คนสำคัญของโลกได้กล่าวไว้ว่า
"การตั้งปัญหาย่อมสำคัญกว่าการแก้ปัญหา" เพราะการแก้ปัญหาอาศัยเพียงทักษะทางคณิตศาสตร์และการทดลองเท่านั้นส่วนการตั้งปัญหาใหม่ๆ และการกำหนดแนวทางที่อาจเป็นไปได้จากปัญหาเก่าๆ ในทักษะใหม่ย่อมต้องอาศัยความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งถือว่าเป็นความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์อย่างแท้จริง
สมมติฐาน(hypothesis) คือการตั้งคำถามจากสิ่งที่สังเกต และพยายามคิดหาคำตอบที่อาจเป็นไปได้
แอลเบิร์ต ไอน์สไตน์ (Albert Einstein) นักวิทยาศาสตร์คนสำคัญของโลกได้กล่าวไว้ว่า
"การตั้งปัญหาย่อมสำคัญกว่าการแก้ปัญหา" เพราะการแก้ปัญหาอาศัยเพียงทักษะทางคณิตศาสตร์และการทดลองเท่านั้นส่วนการตั้งปัญหาใหม่ๆ และการกำหนดแนวทางที่อาจเป็นไปได้จากปัญหาเก่าๆ ในทักษะใหม่ย่อมต้องอาศัยความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งถือว่าเป็นความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์อย่างแท้จริง
Albert Einstein |
ชีวจริยธรรม
By : Unknown
การศึกษาชีววิทยาเป็นการศึกษาเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตดังนั้นการนำความรู้ทางชีววิทยาไปใช้ ย่อมส่งผลต่อสิ่งมีชีวิตโดยตรง จึงต้องคำนึงถึงจริยธรรม เช่น การใช้สัตว์ทดลอง จะต้องหลีกเลี่ยงการทรมานสัตว์ตามข้อกำหนดในจรรยาบรรณการใช้สัตว์ทดลอง โดยผู้ใช้สัตว์ทดลองจะต้องตระหนักถึงคุณค่าของสัตว์ และตระหนักว่าสัตว์เป็นสิ่งมีชีวิตเดียวกับมนุษย์
การใช้สัตว์ทดลองทางวิทยาศาสตร์ |
ชีววิทยากับการดำรงชีวิต
By : Unknown
ในการดำรงชีวิตของมนุษย์ เช่น การดูแลสุขภาพของร่างกาย การผลิตอาหาร การประกอบอาชีพ ล้วนมีความเกี่ยวข้องกับชีววิยาทั้งสิ้น นักวิชาการซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญแต่ละสาขาได้ใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิต จึงทำให้ได้พันธุ์ของสิ่งมีชีวิตหรือผลผลิตตามความต้องการ
สัตว์ที่เกิดจากการโคลน |
ชีววิทยาคืออะไร
By : Unknown
ชีววิทยา (biology) เป็นวิชาที่ศึกษาเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิต ซึ่งประกอบด้วยส่วนที่เป็นความรู้และส่วนที่เป็นกระบวนการค้นหาความรู้ ชีววิทยามาจากคำว่า ชีวะ (bios ภาษากรีก แปลว่า ชีวิต) และวิทยา (logos ภาษากรีก แปลว่า ความคิดและเหตุผล) เนื่องจากสิ่งมีชีวิตมีอยู่เป็นจำนวนมากและมีความหลายหลายทั้งชนิดและจำนวน ชีววิทยาจึงแยกออกเป็นสาขาวิชาย่อยได้หลายแขนง
ตัวอย่างแขนงวิชาต่างๆในสาขาชีววิทยา |
สิ่งมีชีวิตมีการจัดระบบ
By : Unknownสิ่งมีชีวิตมีลักษณะจำเพาะ
By : Unknown
สิ่งมีชีวิตจะมีลักษณะจำเพาะ อาจสังเกตได้จากลักษณะภายนอก เช่น รูปร่าง ขนาด ความสูง สีผิว ลักษณะ เส้นขน จำนวนขา ลักษณะพื้นผิวที่เรียบ หรือขรุขระ หรือมีความมัน ลักษณะเขา เป็นต้น ลักษณะบางอย่างต้องตรวจสอบด้วยการชิมรส การดมกลิ่น เป็นต้น
สิ่งมีชีวิตบาชนิดถึงแม้จะมีขนาดเล็กมากแต่ก็มีลักษณะจำเพาะ
สิ่งมีชีวิตบาชนิดถึงแม้จะมีขนาดเล็กมากแต่ก็มีลักษณะจำเพาะ
ปลาพันธุ์ต่างๆที่มีลักษณะต่างกัน |
สิ่งมีชีวิตมีการรักษาดุลยภาพของร่างกาย
By : Unknown
จากการนำสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวมาใส่ในสารละลายที่ความเข้มข้นต่ำกว่าสารละลายภายในเซลล์ พบว่าโครงสร้างภายในเซลล์ ที่เรียกว่า คอนแทร็กไทล์แวคิวโอล (contractile vacuole) มีการเปลี่ยนแปลงทั้งขนาดและรูปร่าง
คอนแทร็กไทล์แวคิวโอลจะเปลี่ยนแปลงขนาดและรูปร่างเนื่องจากสารละลายในสภาพแวดล้อมภายนอกเซลล์มีความเข้มข้นน้อยกว่าสารละลายภายในเซลล์ จึงเกิดการออสโมซิสของน้ำจากภายนอกเข้าสู่ภายในเซลล์ตลอดเวลา และถ้าน้ำเข้าไปในเซลล์มากขึ้นเซลล์จะขยายขนาดจนอาจทำให้เซลล์แตก พารามีเซียมจึงต้องมีกลไกเพื่อรักษาสมดุลของน้ำและสารละลายระหว่างสภาพแวดล้อมภายนอกและภายในเซลล์
คอนแทร็กไทล์แวคิวโอลจะเปลี่ยนแปลงขนาดและรูปร่างเนื่องจากสารละลายในสภาพแวดล้อมภายนอกเซลล์มีความเข้มข้นน้อยกว่าสารละลายภายในเซลล์ จึงเกิดการออสโมซิสของน้ำจากภายนอกเข้าสู่ภายในเซลล์ตลอดเวลา และถ้าน้ำเข้าไปในเซลล์มากขึ้นเซลล์จะขยายขนาดจนอาจทำให้เซลล์แตก พารามีเซียมจึงต้องมีกลไกเพื่อรักษาสมดุลของน้ำและสารละลายระหว่างสภาพแวดล้อมภายนอกและภายในเซลล์
คอนแทร็กไทล์แวคิวโอล |
สิ่งมีชีวิตมีการตอบสนองต่อสิ่งเร้า
By : Unknown
สิ่งมีชีวิตมีการตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อม เพื่ออาหาร หลบหลีกภัยจากศัตรู และมีการปรับตัวให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม เช่น อากาศที่หนาวจัดหรือร้อนจัดเกินไป ทั้งนี้เพื่อความอยู่รอด สภาพของสิ่งแวดล้อมที่ทำให้สิ่งมีชีวิตแสดงพฤติกรรม เรียกว่า สิ่งเร้า (stimulus) สิ่งเร้ามีทั้งภายในและภายนอกร่างกาย การแสดงออกของสิ่งมีชีวิตต่อสิ่งเร้า เรียกว่า การตอบสนอง (response)
การตอบสนองต่อสิ่งเร้าของต้นโกลบที่โค้งเข้าหาแสง |
สิ่งมีชีวิตมีการเจริญเติบโต มีอายุขัยและขนาดจำกัด
By : Unknown
การเจริญเติบโตของสิ่งมีชีวิต เซลล์มีการเิพิ่มจำนวน มีการเพิ่มขนาด มีการเปลี่ยนแปลงเพื่อทำหน้าที่เฉพาะอย่างและมีการรวมกลุ่มของเซลล์เพื่อพัฒนาเป็นเนื้อเยื่อและอวัยวะต่างๆ
สิ่งมีชีวิตบางชนิดขณะที่เจริญเติบโตไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่สิ่งมีชีวิตขณะที่เจริญเติบโตมีการเปลี่ยนแปลง เช่น ผีเสื้อ กบ เป็นต้น
เมื่อสิ่งมีชีวิตมีการเจริญเติบโตไปได้ระยะหนึ่งก็จะตายไป อายุของสิ่งมีชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายเรียกว่า อายุขัย (life span) สิ่งมีชีวิตแต่ละชนิดมีอายุขัยจำกัดและมีอายุขัยที่แตกต่างกันไป
อายุขัยของพืชมีความแตกต่างกัน เราอาจจะพิจารณาเป็นกลุ่มพืชที่มีช่วงอายุสั้น เช่น บานชื่น ดาวเรือง บานเย็น เป็นต้น
บางกลุ่มเป็นพืชปีเดียว เช่น ข้าว อ้อย สัปปะรด เป็นต้น บางกลุ่มเป็นพืชสองปี พืชพวกนี้มักมีลำต้นใต้ดิน เมื่อใบและลำต้นที่อยู่เหนือดินแห้งเหี่ยวไปยังมีลำต้นใต้ดินที่สามารถงอกและเกิดใหม่ในปีถัดไป เช่น ว่านสี่ทิศ หอม กระเีทียม เป็นต้น
กลุ่มพืชหลายปี อาจเป็นไม้พุ่มหรือไม้ต้น เช่น มะม่วง โพธิ์ หางนกยูง เป็นต้น การนับอายุของไม้ต้นอาจจะนับได้จากวงปี
เราสามารถพิจารณาลำต้นตามขนาดความสูงเมื่อพืชโตเต็มที่ได้ 3 กลุ่ม คือ
- ไม้ล้มลุก(herb) มีความสูงไม่เกิน 120 cm
- ไม้พุ่ม(shrub) มีความสูงประมาณ 120-300 cm
- ไม้ต้น(tree) มีความสูงมากกว่า 300 cm
สิ่งมีชีวิตบางชนิดขณะที่เจริญเติบโตไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่สิ่งมีชีวิตขณะที่เจริญเติบโตมีการเปลี่ยนแปลง เช่น ผีเสื้อ กบ เป็นต้น
วัฎจักรชีวิตของผีเสื้อ |
เมื่อสิ่งมีชีวิตมีการเจริญเติบโตไปได้ระยะหนึ่งก็จะตายไป อายุของสิ่งมีชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายเรียกว่า อายุขัย (life span) สิ่งมีชีวิตแต่ละชนิดมีอายุขัยจำกัดและมีอายุขัยที่แตกต่างกันไป
อายุขัยของพืชมีความแตกต่างกัน เราอาจจะพิจารณาเป็นกลุ่มพืชที่มีช่วงอายุสั้น เช่น บานชื่น ดาวเรือง บานเย็น เป็นต้น
บางกลุ่มเป็นพืชปีเดียว เช่น ข้าว อ้อย สัปปะรด เป็นต้น บางกลุ่มเป็นพืชสองปี พืชพวกนี้มักมีลำต้นใต้ดิน เมื่อใบและลำต้นที่อยู่เหนือดินแห้งเหี่ยวไปยังมีลำต้นใต้ดินที่สามารถงอกและเกิดใหม่ในปีถัดไป เช่น ว่านสี่ทิศ หอม กระเีทียม เป็นต้น
กลุ่มพืชหลายปี อาจเป็นไม้พุ่มหรือไม้ต้น เช่น มะม่วง โพธิ์ หางนกยูง เป็นต้น การนับอายุของไม้ต้นอาจจะนับได้จากวงปี
เราสามารถพิจารณาลำต้นตามขนาดความสูงเมื่อพืชโตเต็มที่ได้ 3 กลุ่ม คือ
- ไม้ล้มลุก(herb) มีความสูงไม่เกิน 120 cm
- ไม้พุ่ม(shrub) มีความสูงประมาณ 120-300 cm
- ไม้ต้น(tree) มีความสูงมากกว่า 300 cm
สิ่งมีชีวิตต้องการสารอาหารและพลังงาน
By : Unknown
สัตว์ได้พลังงานโดยการกินสัตว์หรือพืชอื่นเป็นอาหาร เช่น คางคกกินแมลง นกจิกกินหนอนหรือเมล็ดพืช กวางกินใบไม้ แมวกินหนู ส่วนพืชต้องการน้ำและแสง และแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์
ในอาหารมีสารอาหารที่ช่วยเสริมสร้างให้ร่างการเจริญเติบโต ซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่ชำรุด สารอาหารบางชนิดสลายแล้วให้พลังงานเพื่อใช้ในการทำกิจกรรมต่างๆของร่างกาย เช่นปฏิกิริยาเคมีภายในเซลล์ของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า "เมแทบอลิซึม" (metabolism) ก็ต้องใช้พลังงานจากสารอาหาร
ดวงอาทิตย์เป็นแหล่งกำเนิดของพลังงานที่ใหญ่ที่สุดในโลก พืชและสาหร่ายสีเขียวสามารถเปลี่ยนพลังงานแสงให้เป็นพลังงานศักย์สะสมอยู่ในโมเลกุลของสารอินทรีย์ที่อยู่ในเนื้อเยื่อของพืชโดยกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง
ในอาหารมีสารอาหารที่ช่วยเสริมสร้างให้ร่างการเจริญเติบโต ซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่ชำรุด สารอาหารบางชนิดสลายแล้วให้พลังงานเพื่อใช้ในการทำกิจกรรมต่างๆของร่างกาย เช่นปฏิกิริยาเคมีภายในเซลล์ของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า "เมแทบอลิซึม" (metabolism) ก็ต้องใช้พลังงานจากสารอาหาร
ดวงอาทิตย์เป็นแหล่งกำเนิดของพลังงานที่ใหญ่ที่สุดในโลก พืชและสาหร่ายสีเขียวสามารถเปลี่ยนพลังงานแสงให้เป็นพลังงานศักย์สะสมอยู่ในโมเลกุลของสารอินทรีย์ที่อยู่ในเนื้อเยื่อของพืชโดยกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง
กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช |
สิ่งมีชีวิตมีการสืบพันธุ์
By : Unknown
การสืบพันธุ์ (Reproduction)
การสืบพันธุ์เป็นลักษณะสำคัญของสิ่งมีชีวิต การสืบพันธ์เป็นกระบวนการเพิ่มจำนวนของสปีชีส์(species) เดียวกันเพื่อดำรงรักษาเผ่าพันธ์ไว้ โดยการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมจากรุ่นหนึ่งไปอีกรุ่นหนึ่ง การสืบพันธ์มี 2 แบบ
1. การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ (Sexual reproduction)
2. การสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ (Asexual reproduction) มี 3 แบบ ดังนี้
- การแตกหน่อ (Budding)
การแตกหน่อเป็นการสร้างตัวอ่อนแล้วจึงทำให้ตัวอ่อนเจริญเติบโตเอง
การสืบพันธุ์แบบนี้ พบมากในสัตว์ชั้นต่ำ ที่มีโครงสร้างไม่ซับซ้อน เช่น
ยีสต์ ไฮดร้า แต่ก็พบได้บ้างในพืชบางชนิดเช่น กล้วย ไผ่ เป็นต้น
- การแบ่งตัว (Fission)
เป็นการสืบพันธุ์แบบไม่มีเพศของสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว เช่น
โพรโทซัว แบคทีเรีย ยีสต์ และสาหร่าย ระหว่างที่มีการแบ่งแยกจะมีการแบ่งสารพันธุกรรมด้วย
- การแบ่งส่วน (Fragmentation)
การสืบพันธุ์แบบนี้ชิ้นส่วนของพ่อแม่จะแยกออก
แล้วเจริญเป็นสิ่งมีชีวิตใหม่ ได้แก่ ฟองน้ำ ดอกไม้ทะเล
- การสร้างใหม่ (Regeneration)
การสืบพันธุ์แบบสร้างใหม่คล้าย การหัก
แต่ต่างกันตรงที่การสร้างใหม่เป็นการเจริญเพื่อซ่อมแซมส่วนที่ขาดหายไป
เนื่องจากได้รับความเสียหายจากภายนอก
วิธีนี้สิ่งมีชีวิตที่ถูกตัดออกเป็นชิ้นๆแต่ละชิ้นจะสามารถงอก
เป็นสิ่งมีชีวิตใหม่ได้ เช่น ในชิ้นส่วนของพืชเกือบทุกชนิด
ในไส้เดือนดิน
ฟองน้ำไฮดรา และปลาดาว พลานาเรีย ซึ่งเป็นหนอนตัวแบนชนิดหนึ่ง
เมื่อถูกตัดออกเป็นท่อนๆแต่ละท่อนจะเจริญเป็นตัวที่สมบูรณ์ได้
- การสร้างสปอร์
สปอร์จัดเป็นหน่วยสืบพันธุ์อย่างหนึ่ง ปกติสปอร์มักจะมีผนังหนา
จึงทนทานต่อสิ่งแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม เช่น ความแห้งแล้ง นอกจากนี้สปอร์ยังมีขนาดเล็ก
เหมาะที่จะกระจายไปในอากาศ เมื่อสิ่งแวดล้อมเหมาะสมจะปล่อยสปอร์เป็นจำนวนมาก
ในพวกเห็ดราบางชนิด สปอร์เกี่ยวข้องกับการสืบพันธุ์แบบไม่มีเพศ และแบบมีเพศในพืชพวกเมทาไฟตา
มีการสร้างสปอร์ซึ่งเป็นช่วงหนึ่งของการสืบพันธุ์แบบสลับด้วย
การสืบพันธุ์เป็นลักษณะสำคัญของสิ่งมีชีวิต การสืบพันธ์เป็นกระบวนการเพิ่มจำนวนของสปีชีส์(species) เดียวกันเพื่อดำรงรักษาเผ่าพันธ์ไว้ โดยการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมจากรุ่นหนึ่งไปอีกรุ่นหนึ่ง การสืบพันธ์มี 2 แบบ
1. การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ (Sexual reproduction)
2. การสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ (Asexual reproduction) มี 3 แบบ ดังนี้
- การแตกหน่อ (Budding)
ไฮดรา |
- การแบ่งตัว (Fission)
อะมีบา |
- ขบวนการนี้แบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ
1. แบ่งแยกเป็นสอง (BINARY FISSION) จากหนึ่งเซลล์แบ่งได้เป็น 2 เซลล์ และ 4 เซลล์ต่อไปเรื่อยๆ
1. การแบ่งแยกทวีคูณ (MULTIPLE FISSION) นิวเคลียส จะมีการแบ่งแบบไมโตซีสหลายครั้งได้นิวเคลียสหลายอัน แล้วจึงแบ่งไซโตพลาซึมได้เป็นหลายเซลล์จะเกิดในพวกสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง เช่น ในเชื้อมาเลเรียบางระยะและในอมีบาบางชนิดในระยะเป็นตัวหนอนของฟองน้ำและปลา ดาวบางชนิด
- การแบ่งส่วน (Fragmentation)
ดอกไม้ทะเล |
- การสร้างใหม่ (Regeneration)
ปลาดาว |
- การสร้างสปอร์
สปอร์ของเฟิร์น |
สิ่งมีชีวิตคืออะไร
By : Unknownสิ่งมีชีวิตคืออะไร
บางคนอาจจะให้ความหมายของสิ่งมีชีวิตว่า เป็นสิ่งที่สามารถเคลื่อนไหวได้ หายใจได้ เจริญเติบโตได้ สืบพันธุ์ได้ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นลักษณะของสิ่งมีชีวิตทั้งสิ้น
สิ่งมีชีวิตบางชนิดบางที่เราสามารถบอกได้ว่าเป็นสิ่งมีชีวิต
หรือไม่ แต่บางชนิดเราก็ไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นสิ่งมีชีวิต นักชีววิทยาจึงใช้เกณฑ์ในการจำแนกสิ่งมีชีวิตที่เห็นดังนี้
ฟองน้ำ |
1.สิ่งมีชีวิตมีการสืบพันธ์
2.สิ่งมีชีวิตต้องการสารอาหารและพลังงาน
3.สิ่งมีชีวิตมีการเจริญเติบโต มีอายุขัยและขนาดจำกัด
4.สิ่งมีชีวิตมีการตอบสนองต่อสิ่งเร้า
5.สิ่งมีชีวิตมีการรักษาดุลยภาพของร่างกาย
6.สิ่งมีชีวิตมีลักษณะจำเพาะ
7.สิ่งมีชีวิตมีการจัดระบบ
รายละเอียดต่างๆสามารถดูได้จากบทความต่อๆไป